เล่าประสบการณ์เคลม Macbook Pro กับประกันที่ขาดไปแล้ว แต่ยังเคลมได้แบบฟรีๆ

Lemon Sensei
2 min readDec 25, 2020

--

ถ้ายังจำกันได้ช่วงครึ่งหลังปี 2017 ที่ผมเริ่มเขียนบล็อกส่วนตัวนี้ ผมได้ถอยเจ้า Macbook Pro 13" แบบไม่มีทัชบาร์มาตัวนึง และก็ยังคงใช้มันอยู่จนถึงวันนี้ที่เขียนบทความนี้

ทุกอย่างดูโอเค นางไม่เคยงอแงใส่ผมแม้แต่ครั้งเดียว นางเคยค้างแบบหาสาเหตุไม่ได้จนต้องชัตดาวน์แบบฉุกเฉินไปเท่าที่จำได้น่าจะ 3 ครั้ง ซึ่งสองในสามครั้งนั้นเกิดจากผมทะลึ่งไปปรับแต่งค่าแปลกๆในเครื่องแล้วไม่ได้ปรับคืนมา (ลงม็อด Stardew 55555+)

ผมเรียกเจ้า Mac ของผมว่านางตลอดเลย เนื่องด้วยเพราะนางสวย แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้แบบจริงๆจังๆซะที คุณผู้อ่านอาจจะสงสัยว่ามีไอ้บ้าที่ไหนตั้งชื่อให้คอมด้วยวะ อันที่จริงผมมองว่าเค้าช่วยเราทำงานมาตลอด ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านการตกกระแทก นอนด้วยกันมาตลอด จนเหมือนจะใช้ชีวิตร่วมกันอยู่แล้ว ผมเลยคิดว่าเธอควรจะมีชื่อ

เส้นทางแห่งความหวัง

จนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งปีครึ่ง ผมเริ่มสังเกตุได้ว่ามีความผิดปกติบางอย่างกับคีย์บอร์ดที่ปุ่ม “น” “O” นี้มีความแข็งขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ทราบสาเหตุ ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งสังเกตุได้ว่าปุ่มมันกดยากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งหลังๆแทบจะกดไม่ได้ซะด้วยซ้ำ มันแข็งมากๆ แล้วงานของผมหลักๆช่วงนั้นจะเป็นการเขียนโค๊ด ซึ่งแทบจะต้องใช้ตัวอักษรทุกปุ่ม การที่มีบางปุ่มกดใช้งานไม่ได้ทำให้หัวร้อนมากๆ

ผมลอง Googling หาดูว่ามีใครที่เจอปัญหาเดียวกันแบบนี้ไหม แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจนิดๆเพราะไปเจอข่าวที่ว่า Apple เปิดช่องทางให้เคลมแบบฟรีๆสำหรับเครื่องล็อตที่เจอปัญหาเกี่ยวกับคีย์บอร์ด ซึ่งผมก็ไม่รอช้า รีบเช็คทันทีว่าเครื่องรุ่นผมเข้าข่ายโครงการนี้หรือไม่ ผลปรากฏคือ สามารถเคลมได้แบบฟรีๆ!!

แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าผมเอาไปเคลมตอนนี้แล้วจะเอาเครื่องไหนมาใช้ทำงานล่ะ? คิดไว้ก่อนเลยว่าการเคลมอะไรซักอย่างแต่ละครั้งคงไม่ต่ำกว่า 15 วันแน่ๆ แม้จะเป็นประกันเทพระดับ Apple ก็เถอะ เพราะยังไงเสียมันก็ต้องมีคิวรอซ่อมกันอยู่บ้าง ไหนจะเรื่องส่งอะใหล่มาจากทางสิงคโปร์อีก

ผมได้ปล่อยปัญหานี้ไปอีกราวๆครึ่งปี เป็นครึ่งปีที่หงุดหงิดไม่ใช่น้อย ทุกๆครั้งที่ต้องการจะพิมพ์ “น” หรือ “O” จะต้องใส่แรงกระแทกมากเป็นพิเศษไม่งั้นตัวอักษรจะไม่ออก แต่ในเมื่อยังทำอะไรไม่ได้ก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย

ทัณฑ์สวรรค์

อยู่มาวันหนึ่ง เหมือนสวรรค์ชั้นเจ็ดนึกสนุกอยากจะลงโทษความบาปหนาของผมรึเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเจอกับอาการ “ดับไปเองดื้อๆ” เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้นางมาครอบครอง เป็นการดับในขณะที่กำลังทำงานที่ค่อนข้างบริโภคพลังงานมาก แต่ผมจำได้แม่นยำว่าตอนนั้นปริมาณแบตเหลืออยู่ที่ 30% ในหัวของผมก็มีแต่คำว่า ตรูโดนเล่นแล้วววว!!

เมื่อเข้าไปเช็คข้อมูลแบตดูพบว่าค่า Cycle Count มีอยู่เพียง 55 รอบเท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมาก เป็นเพราะว่าผมมักจะเสียบชาร์จอยู่เสมอทุกครั้งที่ใช้งาน แต่แบตเตอร์รี่นั้นเป็นอะไรที่มีอายุการใช้งาน แม้ว่าจะแทบไม่ได้ใช้เลยก็ตาม แต่สักวันหนึ่งมันก็จะเสียโดยธรรมชาติของมันเอง (ยกเว้นกรณีเรามีตัวนำยิ่งยวดในอุณหภูมิห้องห้องแล้ว) ผมจึงหาโหลด Tool อะไรซักอย่างเพื่อมาเช็คข้อมูลแบตอย่างละเอียดจนพบว่าค่า Design Capacity ของผมร่วงจนไปเหลือแค่ราวๆ 60% เท่านั้น แบตเสื่อมแล้วนั่นเอง

ความพีคต่อมาก็คือ ช่วงก่อนประกันจะขาด ผมลืมต่อประกันเว้ย 55555 เอาล่ะสิ ถ้าส่งเคลมเฉพาะแบตล่ะก็คงโดนไม่ต่ำกว่า 6,500 บาทเป็นแน่แท้ เอาก็ได้วะ ไหนๆก็เป็นเคสที่บังคับเคลมแล้ว ก็เคลมเคสคีย์บอร์ดไปด้วยเลยละกัน

ช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจ

ผมเลยจัดการเอานางไปเข้าศูนย์ AASP แถวๆหาดใหญ่ ซึ่งน่าจะเป็นศูนย์ที่ใกล้ที่สุดแล้ว พอไปถึงก็จัดแจงบอกอาการทุกอย่างไปเลย พนักงานรับเรื่องพร้อมกับบอกว่ากรณีคีย์บอร์ดสามารถเคลมได้ฟรี ส่วนในเรื่องของแบตฯนั้นพบว่าประกันได้หมดไปแล้ว แต่จะขอดูอีกครั้ง(?) แล้วจะแจ้งกลับไป

ผมทิ้งนางไว้แล้วกลับบ้านแบบเดียวดายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนเวลาล่วงเลยไปถึง 20 วัน… มีการติดต่อจากพนักงาน AASP เรื่องขอยืนยันการเปิดซ่อมและขอล้างข้อมูลทั้งหมดในเครื่อง ซึ่งผมก็เออออไปเพราะได้สำรองข้อมูลทุกอย่างไว้แล้ว พร้อมกับคำพูดทิ้งท้ายไว้ว่า คุณ xxx ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายนะคะ(?)

สาว AASP คนนี้ทำผม (?) มาแล้วถึงสองรอบ แต่ผมยังไม่กล้าที่จะถามข้อมูลอะไรจนเวลาล่วงเลยไปอีก 7 วัน มีโทรศัพท์ให้ผมไปรับเครื่องคืนได้ทันที ไม่กี่วันต่อมาผมก็รีบแจ้นเข้าไป โอเคนางดูเหมือนจะสวยขึ้นนิดๆ (ฮา) พนักงานแจ้งว่าในส่วนของคีย์บอร์ดนั้นมีอาการผิดปกติจริงๆเลยจัดการเปลี่ยนทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนในเรื่องของแบตฯก็จัดการให้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

ก็ถือว่าหมดทุกข์หมดโศกกันแล้วกับอาการป่วยชั่วคราว แต่ทีนี้มาถึงคิวผมล้มป่วยบ้างแล้วล่ะ เตรียมตัวมาพร้อมแล้ว มองหน้าพี่พนักงานอีกครั้งแล้วรวบรวมความกล้าทั้งหมดถามออกไปว่า “ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไรครับ”

สิ่งที่ผมได้รับตอบกลับมาคือ “การซ่อมครั้งนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ” …! ห๊ะ เห้ย?

พนักงานแจ้งว่าตอนทำเรื่องเคลมคีย์บอร์ดกับทางสิงคโปร์ ก็ลองทำเรื่องเคลมแบตฯให้ด้วยเลย เพราะรุ่นที่เราใช้อยู่นี้เองบางตัวก็มีปัญหาเรื่องแบตฯพ่วงมาด้วย แต่ตอนเช็คเบื้องต้นนั่นไม่เข้าข่ายเปลี่ยนฟรี แต่อาจจะลองไปคุยดูทีหลังได้ ซึ่งก็เหมือนจะเคลมได้จริงๆ จึงเป็นที่มาของเหตุผลที่ไม่ต้องเสียตังค์ในวันนี้

เอาเข้าจริงเครื่องอายุประมาณสองปีแต่แบตเสื่อมถึงขีดสุดแล้วก็ถือว่าค่อนข้างเร็วไปหน่อย บางทีนางอาจจะเข้าข่ายจริงๆแต่ตกสำรวจไปอะไรแบบนี้ แต่เอาเป็นว่าผมได้เคลมแบตฯแบบฟรีๆ แม้ว่าประกันจะขาดไปนานแล้วก็ตาม

Cycle Count กลับไปเหมือนตอนซื้อใหม่แล้ว

ขอบคุณ iService มากๆครับ สำหรับประสบการณ์และคุณภาพในการบริการครั้งนี้

https://www.facebook.com/iServiceAASP/

Edit เขียนทิ้งไว้เป็นชาติ แต่ลืมกดเผยแพร่ -..-

Sign up to discover human stories that deepen your understanding of the world.

--

--

No responses yet

Write a response